นิ่วในถุงน้ำดี Gallstones
โรคนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากการจับตัวเป็นตะกอนขึ้นในถุงน้ำดี
ปัจจัยมาจากความไม่สมดุลของสารละลายในน้ำดี
รวมทั้งการทำงานไม่ปกติของถุงน้ำดีทำให้เกิดนิ่วขึ้น
ซึ่งลักษณะของนิ่วจะพบได้หลายแบบ ขึ้นกับส่วนประกอบของนิ่วเอง
โรคนิ่วในถุงน้ำดีพบได้ตั้งแต่ไม่มีอาการแสดงออก หรือมีอาการแสดงออกน้อย
จนกระทั่งมีอาการรุนแรงจนถึงกับทำให้เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนตามมาได้ การพบนิ่วในถุงน้ำดีจากการตรวจก็ไม่สามรถบอกได้ว่าจะมีอาการเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่ส่วนใหญ่เมื่อติดตามไประยะเวลาหนึ่งก็พบว่าจะมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นจนทำให้การรักษามีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อไหร่จึงควรเข้ารับการรักษานิ่วในถุงน้ำดี
ก็คือเมื่อเริ่มมีอาการ หรือการตรวจพบว่านิ่วมีจำนวนมาก มีขนาดใหญ่ หรือ
พบว่าผนังของถุงน้ำดีหนาตัวขึ้นจากการตรวจพบโดยเอกซเรย์อัลตร้าซาวด์
ซึ่งบ่งชี้ว่าเริ่มมีการอักเสบเรื้อรังของถุงน้ำดีแล้ว
อาการเริ่มต้นของนิ่วในถุงน้ำดีคืออาการอาหารไม่ย่อยบ่อยๆ
จุกเสียดแน่นท้องเป็นๆหายๆ หรืออาการคล้ายกรดไหลย้อน โดยส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารมื้อใหญ่หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันสูง
เช่น กะทิ เนย นม โดยการแสดงอาการจะไม่สม่ำเสมอ
นิ่วในถุงน้ำดีจะไม่หายไปเอง การรักษาให้หายขาดคือการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก
จึงสามารถป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังนั้นการที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีและต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น
จึงเป็นการยากในการตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดรักษาในกรณีที่ยังไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย
การที่ยังไม่เข้ารับการผ่าตัดรักษาจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนในภายหลัง
ทำให้โรครุนแรงขึ้นและการผ่าตัดรักษาทำได้ยากขึ้น
หลักการพิจารณาเบื้องต้นสำหรับการจะตัดสินใจเข้ารับการรักษา คือ
ภาพแสดงลักษณะต่างๆ
ของการผ่าตัดถุงน้ำดี จะพบว่ามีความยากง่ายของการผ่าตัดแตกต่างกัน
ภาพการผ่าตัดผ่านกล้องถุงน้ำดีที่ยังไม่อักเสบ
ภาพการผ่าตัดผ่านกล้องถุงน้ำดีอักเสบ
ภาพการผ่าตัดผ่านกล้อง ถุงน้ำดีอักเสบ มีเนื้อตายที่ผิว
ภาพการผ่าตัดผ่านกล้อง ถุงน้ำดีอักเสบเป็นหนอง
กรณีที่ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี
แต่ยังไม่พบลักษณะว่ามีถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง และไม่มีอาการ
จะมีสองทางเลือกคือ
1
ยังไม่เข้ารับการผ่าตัดรักษา
แต่คอยสังเกตอาการเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร หรืออาการปวดท้อง และตรวจอัลตร้าซาวด์ถุงน้ำดีทุกปีเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของนิ่ว
แต่ในกรณีนี้ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดถุงน้ำดีอักเสบทำให้การรักษายุ่งยากขึ้นด้วย
ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้
2
ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดรักษาเอาถุงน้ำดีออก
เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
กรณีที่พบนิ่วในถุงน้ำดี
และมีอาการผิดปกติในระบบการย่อยอาหาร ควรได้รับการรักษา
เพราะจะทำให้ระบบการย่อยอาหารกลับมาเป็นปกติไม่มีอาการท้องอืดแน่นท้องอีก
และไม่เกิดโรคแทรกซ้อนในภายหลัง
กรณีตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี
และในท่อน้ำดีร่วมด้วย จะทำให้การรักษายุ่งยากมากขึ้น โดยต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก
และส่องกล้องทางปากเพื่อไปขยายท่อน้ำดีและคล้องเอานิ่วในท่อน้ำดีออกด้วย
การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเจาะเอาถุงน้ำดีออก
ในปัจจุบันทำได้ไม่ยาก ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่เกิน 1 ชม.
และพักฟื้นในโรงพยาบาล 2 วันก็สามารถกลับบ้านได้ ต่างจากในกรณีที่เกิดถุงน้ำดีอักเสบแล้วบางครั้งอาจจะต้องทำการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องแบบเดิมทำให้ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดนานกว่า
และมีความเจ็บปวดแผลผ่าตัดมากกว่า แบบผ่าตัดผ่านกล้อง
ผู้ป่วยที่พบนิ่วในถุงน้ำดี สามารถขอปรึกษารายละเอียดการรักษาได้โดยตรงที่
แผนกผ่าตัด-ผ่าตัดผ่านกล้อง โรงพยาบาลมิตรภาพสามัคคี 074-801900 ต่อ2101 หรือ 0816980088
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น